Review- Star Wars Outlaws สตาร์วอร์สฉบับมุดท่อย่อยิง


เรตเกม PEGI: 12 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ครั้งแรกของแฟรนไชส์ภาพยนตร์สงครามอวกาศในรูปแบบเกมโอเพ่นเวิลด์เต็มตัวจากฝีมือค่าย ยูบิซอฟต์ ที่รูปลักษณ์ภายนอกฉากโลกฉากหลังดูดึงดูดน่าตื่นตา แต่ทว่าเกมเพลย์ภายในกลับไม่เป็นอย่างนั้น

เนื้อหาของเกม Star Wars Outlaws นั้นจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับหนังภาค The Empire Strikes Back ภายหลังดาวมรณะ เดธสตาร์ ดวงแรกของฝ่ายจักรวรรดิได้ถูกทำลายลง Sliro หัวหน้าแก๊งค์อาชญากรก็คิดฝันอยากดันตนขึ้นมาเป็นใหญ่ครองอำนาจเหนือคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งตัวละครเอกสาวผู้ถนัดฉกชิงวิ่งราวอย่าง “เคย์ เวสส์” (Kay Vess) ปกติเธอเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องมีเรื่องบาดหมางอะไรกับเขา จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้รับงานจากพวกกองกำลังฝ่ายกบฏที่ปลอมตัวมาหวังหลอกใช้ให้เธอลอบเข้าไปในคลังสมบัติของ Sliro โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่อยู่หลังบานประตูตู้เซฟคือบุคคลสำคัญของฝ่ายกบฏ เมื่อโดนเพื่อนร่วมก๊วนแทงข้างหลังและถูกทิ้งให้เอาตัวรอดเพียงลำพัง เธอจึงต้องหาทางหลบหนีด้วยการชิงยานอวกาศปริศนาที่จอดซ่อนอยู่ นั่นจึงนำมาสู่การผจญภัยไล่ล่าข้ามดวงดาวของหญิงสาวผู้ถูกชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นมากกว่าหัวขโมย
ทั้งที่ดาวเคราะห์แต่ละดวงมีพื้นทุ่งกว้างใหญ่หลายตารางกิโลเมตรให้สำรวจ แต่สามารถเก็บดีเทลรายละเอียดได้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเฉพาะพวกต้นไม้ใบหญ้าต่างๆที่พลิ้วไหวเป็นคลื่นเวฟไปพร้อมกับสายลม ทุกแอเรียล้วนมีจุดเด่นแลนด์มาร์คที่แตกต่าง มิใช่ก็อปมาวางแปะเหมือนเกม ยูบิซอฟต์ ยุคก่อนๆ แถมเมื่อคุณย่างเท้าก้าวเข้าสำรวจตามเมืองใหญ่ๆที่เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยแสงไฟผู้คนเดินกันพลุกพล่าน มีทางแยกไต่ระดับขึ้นไปชั้นบนลัดลงชั้นล่าง คุณจะรู้สึกราวกับตัวเองหลุดเข้าไปยังโลกอีกใบในจินตนาการของ “จอร์จ ลูคัส” เลยทีเดียว
ด้วยความที่ตัวเอกเป็นหัวขโมยผู้ต้องออกผจญภัยโหนเชือกปีนป่ายแอบย่องฉกชิงสมบัติตามสถานที่ต่างๆ จึงไม่แปลกที่ใครหลายคนจะหยิบยกมันไปเปรียบเทียบกับซีรีส์เกมล่าขุมทรัพย์ชื่อดังระดับตำนานของ โซนี่ ซึ่งเราคิดว่าตัวเกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมดังกล่าวเยอะพอสมควร แต่จะแอบฉีกต่างออกไปเล็กน้อยตรงที่เรามีสัตว์แสนรู้คู่ใจตัวจ้อยอย่างเจ้า “นิกซ์” (Nix) ที่คอยช่วยเหลือเราตลอดเส้นทาง ผู้เล่นสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้หลากหลาย ไม่ว่าจะสั่งมันไปขโมยฉกของ คาบไอเทมหรือหยิบอาวุธที่ตกอยู่ แกล้งตายหลอกล่อเบนความสนใจของศัตรูหรือกล้องวงจรปิด ทำลายสัญญาณเตือนภัย จุดระเบิดถังเชื้อเพลิง แม้กระทั่งลอดช่องขนาดเล็กเพื่อไปกดสวิตช์เปิดประตูจากอีกฝั่งก็ทำได้ เรียกว่าสารพัดประโยชน์จริงๆ
ในฐานะโจรฟรีแลนซ์ เราสามารถเลือกรับงานได้ทุกฝ่ายทั้ง Ashiga Clan, Crimson Dawn, Hutt Cartel และ Pyke Syndicate ซึ่งการทำตามคำขอของแต่ละแก๊งค์แล้วเลือกช้อยส์ที่เหมาะสมจะส่งผลให้ค่าชื่อเสียงความเชื่อใจที่แก๊งค์นั้นมีต่อเราเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงระดับหนึ่งเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวสามารถเดินตัวตรงเข้าไปยังรังลับของพวกมันได้โดยไม่ต้องหลบซ่อน บางครั้งอาจได้สกินปืนสวยๆ ได้เลือกซื้อสินค้าแปลกๆ หรือได้รับเครื่องแต่งกายเฉพาะที่พ่วงสกิลพิเศษของแก๊งค์นั้นมาสวมใส่ แต่ก็อย่างที่เขาบอก “มีคนชอบ ย่อมต้องมีคนเกลียด” ดังนั้นแล้วก่อนตัดสินใจเลือกทำอะไรควรคิดให้รอบคอบว่าเราอยากตีสนิทกับใคร อยากให้ฝ่ายไหนพึงพอใจ และรับได้ไหมที่อีกฝ่ายจะมองเราเป็นศัตรู
นอกเหนือจากการโผล่มายิงจากที่กำบังและพลังหมัดเทพเจ้าดาวเหนืออัดศัตรูหุ้มเกราะสลบได้ในสามทีแล้ว “เคย์ เวสส์” เธอยังมีท่าไม้ตาย Adrenaline Rush เอาไว้ชะลอเวลาล็อกเป้าเก็บศัตรูหลายตัวพร้อมกันในพริบตาเดียวมาให้ผู้เล่นได้ลองใช้ รวมไปถึงสกิลอื่นๆที่จะปลดล็อคตามมาภายหลัง อาทิเช่น แกล้งชูมือยอมจำนนให้ศัตรูชะล่าใจ, บูสเตอร์เร่งความเร็วยานพาหนะ หรือระเบิดควันอำพรางกาย ซึ่งสกิลใหม่ๆเหล่านี้เราสามารถเรียนรู้ฝึกฝนได้จากบรรดาอาจารย์ที่อยู่กระจัดกระจายภายในเกม หากเราตามหาพวกเขาจนพบและปฏิบัติภารกิจเงื่อนไขที่กำหนดอย่างใช้ท่านี้จำนวนเท่านั้น ใช้ท่านั้นจำนวนเท่านี้ เราก็จะได้รับสกิลดังกล่าวมาครอบครองทันที ถือเป็นไอเดียปลดสกิลที่ค่อนข้างแจ่มแจ๋วแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร มิได้ใช้ระบบอาร์พีจีฟาร์มเลเวลสะสมแต้มพอยท์มาปลดล็อคสกิลแบบเกมอื่นๆทั่วไป
เวลากว่า 80 เปอร์เซ็นต์เกมจะสูญเสียหมดไปกับการแฮคเจาะระบบ สะเดาะล็อคไขประตู และแอบย่องลอบเร้นแทรกซึมฐานเป็นส่วนใหญ่ จนอาจพูดได้ว่ามันแทบเป็นเกมแนว Stealth แอ็คชั่นจารกรรมไปแล้ว ซ้ำร้ายในบางมิชชั่นยังบังคับระบุกำชับว่า “อย่าโดนจับได้ ห้ามให้ใครพบเห็น” มิเช่นนั้นจะเกมโอเวอร์ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ยังจุดเช็คพอยท์ที่อยู่ไกลโข ซึ่งด้วยความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของเหล่า AI ศัตรูโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกสตอร์มทรูปเปอร์ในเกมนี้ที่มีมันสมองน้อยเสียยิ่งกว่าในหนัง เดี๋ยวตาดี เดี๋ยวตาบอด เดี๋ยวได้ยิน เดี๋ยวหูหนวก เจออะไรผิดแผกไปจากโค้ดโปรแกรมนิดหน่อยก็หยุดนิ่งเอ๋อแดก เห็นเราตรงนี้กลับเดินอ้อมเสียไกลอะไรแบบนั้น มันจึงส่งผลให้ประสบการณ์การเล่นภาพรวมของเกมแทบจะกลายเป็นฝันร้าย
ถึงแม้รูปแบบการเล่นจะเป็นแนวโอเพ่นเวิลด์ แต่คำว่าโลกอิสระของเกมนี้หลายสิ่งหลายอย่างมันค่อนข้างถูกกำหนดตายตัวเอาไว้แล้ว ยกตัวอย่างยานพาหนะสำรวจดวงดาวที่เราต้องขับขี่มอเตอร์ไซค์ลอยฟ้า Speeder ที่เป็นของเราคันเดียวเท่านั้น พวกรถพวกยานเหาะของเหล่า NPC ที่สัญจรผ่านไปมาเราจะไม่สามารถขึ้นไปขับได้เลย การเล็งยิงปืนบนมอเตอร์ไซค์ก็ไม่อาจทำได้ เจอหน้าศัตรูข้าศึกต้องบิดหนีลูกเดียว ถึงมีท่าสังหารอดรีนาลินรัชเพื่อเอาตัวรอดยามคับขันแต่ก็ไม่อาจกดใช้มันได้บ่อยๆ หรือแม้กระทั่งตอนที่เราขึ้นขับยาน Trailblazer ท่องเดินทางวาร์ปข้ามไปยังระบบสุริยะใหม่ๆ ตัวเกมกลับให้เราได้ขับยานบินยิงต่อสู้พอกล้อมแกล้มอยู่ภายในเขตพื้นที่อวกาศขนาดเล็กแบบปิดเท่านั้นเอง ไม่ต่างจากนกน้อยที่สยายปีกบินวนอยู่ภายในกรงขัง
อาวุธหลักคู่กายประจำตัว เคย์ คือปืนพกบลาสเตอร์ยิงแสงเลเซอร์ที่ผู้เล่นสามารถอัปเกรดประสิทธิภาพเพิ่มเติมฟังก์ชันการยิงใหม่ๆให้กับมันได้ ซึ่งจุดเด่นของมันอยู่ตรงที่กดยิงได้ไม่จำกัดเพราะมิได้ใช้กระสุน แค่ต้องคอยบริหารความร้อนให้ดีกดคูลดาวน์ให้ถูกจังหวะเท่านั้น ส่วนอาวุธปืนต่างๆของศัตรูที่ตกอยู่ตามพื้น พวกปืนกล ปืนสไน เราก็สามารถเก็บมันขึ้นมาใช้งานได้ด้วยนะ เพียงแต่จะถูกจำกัดกระสุนลิมิตจำนวนครั้งในการยิง (ทั้งที่เป็นปืนเลเซอร์เหมือนกัน) ใช้จนกระสุนหมดแล้วต้องโยนทิ้งเปลี่ยนกลับมาใช้ปืนพกยิงเหมือนเดิม และด้วยความที่ปืนในจักรวาลสตาร์วอร์สมันไม่มีสายสะพาย อีกทั้งแม่หญิงตัวเอกของเกมเธอเองก็มีแค่เข็มขัดซองหนังเอาไว้เก็บปืนพก ดังนั้นตัวเราจึงไม่มีที่ว่างสำหรับจัดเก็บพกพาปืนของศัตรูทำได้เพียงถือมันด้วยมือสองข้าง ฉะนั้นเวลาขับขี่สปีดเดอร์ เทคดาวน์ศัตรู วางหมัดวางมวยคลุกวงใน ปีนป่ายจับบันได หรือประกอบกิจกรรมทำสิ่งใดก็แล้วแต่ที่ต้องใช้ทั้งสองมือ ปืนของศัตรูที่อุตส่าห์เก็บมาจะถูกดีดเด้งออกจากตัวเราเสมอ เสมือนเราเหนื่อยต่อสู้เล่นเกมผ่านด่านปราบบอสสำเร็จ แต่กลับไม่ได้ของรางวัลติดไม้ติดมือกลับมาสักชิ้น ถึงจะฟังดูเป็นเรื่องหยุมหยิมแต่ก็ทำให้คนเล่นหมดอารมณ์ได้เลยนะ
อีกเรื่องที่เราอยากบ่นมากๆคือความจำเจซ้ำซากของภารกิจ ดาวเคราะห์ทุกดวงที่เราไปเยี่ยมเยือน ทุกตึกอาคารฐานทัพที่เราเข้าไปเหยียบ มักเริ่มต้นด้วยการแทรกซึมลอบเร้นเข้าไปด้านในอย่าให้ใครเห็น แล้วจบลงเอยด้วยการยิงต่อสู้ฝ่าดงศัตรูออกมาเสมอทุกครั้งไป ทั้งที่เราอุตส่าห์ฝืนอดทนเล่นไปเกือบ 10 ชั่วโมงด้วยความหวังว่าเกมเพลย์จะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น เผื่อทางข้างหน้าจะมีอะไรใหม่ๆมาเซอร์ไพร์สเราบ้าง ทว่าสุดท้ายกลับต้องคอตกผิดหวังเจอแต่การเล่นลอบเร้นมาราธอนน่าเบื่อซ้ำๆแพทเทิร์นเดียวไปตลอด และที่ชอกช้ำใจเราหนักสุดคงเป็นเจ้าหุ่นดรอยด์นักสู้ ND-5 ที่ได้ขึ้นเป็นดาราหน้าปกเกม แถมมีฉากเปิดตัวอย่างเท่ดูน่าสนใจ แต่สิ่งที่ทาง Massive Entertainment ตัดสินใจทำคือจับเขามาเป็นโชเฟอร์คนขับนั่งหงอยเป็นสุนัขเฝ้ายาน ปล่อยให้สาวน้อยทอมบอยกับสัตว์เลี้ยงตัวจ้อยไปเผชิญชะตากรรมตามลำพังกันสองตัวเหมือนเคย
“พูดไปเราก็ไม่อยากเชื่อว่า ยูบิซอฟต์ บริษัทพัฒนาเกมชื่อดังที่เคยโดดเด่นเป็นผู้นำด้านการรังสรรค์วิดีโอเกมแนวลอบเร้นจารกรรมอย่างสปลินเตอร์เซลล์, เรนโบว์ซิก และซีรีส์ทอมแคลนซี่ทั้งหลายแหล่ จะประสบปัญหาตกม้าตายกะอีแค่การหยิบจับแฟรนไชส์ Star Wars มาสร้างเป็นเกมลอบเร้นโอเพ่นเวิลด์ หรือเพราะบางทีพวกเขาอาจยึดติดกับตัวอักษร A สี่ตัวมากเกินไป ทุกอย่างมันต้องใหญ่มันต้องดูอลังดาวล้านดวง จนลืมนึกถึงความสุขเล็กๆแต่เปี่ยมล้นคุณภาพที่พวกเขาเคยเป็น เคยสร้าง เคยมอบให้แก่พวกเราในอดีต”

เกมเพลย์ 4
กราฟิก 7
เสียง 7
เนื้อเรื่อง 6
ความคิดสร้างสรรค์      5
ภาพรวม 5.8

ข้อดี: ดาวแต่ละดวงมีสภาพภูมิประเทศโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์, สัตว์เลี้ยงคู่หู Nix ทั้งน่ารักทั้งสารพัดประโยชน์ช่วยเราได้หลายเรื่อง, เหล่าตัวละครหน้าคุ้นที่หวนคืนจอให้แฟนหายคิดถึง และมีระบบอัปเกรดสกิลที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใครข้อเสีย: กราฟิกบางครั้งดูสวยบางทีดูแย่เอาแน่ไม่ได้, ดีไซน์ตัวละครเอกสาวขาดเสน่ห์เวลาคุยกับใครหน้าอย่างลอย, ใช้หมัดลุ่นๆต่อยยับอัดแหลกอย่างเดียวก็ผ่านได้, จักรวาลกว้างใหญ่แต่ไม่ค่อยมอบอิสระผู้เล่นเท่าไหร่นัก, หลายมิชชั่นบังคับลอบเร้นถูกจับได้ต้องกลับไปตั้งต้นใหม่น่ากุมขมับ, อาวุธของศัตรูไม่สามารถพกพาติดตัวไปไหนได้เอะอะโยนทิ้งตลอด, เกมเพลย์น่าเบื่อจำเจเริ่มด้วยมุดรูจบด้วยการต่อสู้ทุกครั้งไป, ได้ลูกทีมใหม่มีหุ่นยนต์สุดเท่ร่วมก๊วนทว่ากลับไม่มาช่วยเหลืออะไรเราเลย และราคากับคุณภาพที่สวนทางกันอย่างชัดเจน

*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*
คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่าสุด 2024

Related Posts