โพสต์ by ผีแดง แมนยู.
รีพอร์ต
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ลงเตะในพรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง คราวนี้ต้อนรับการมาเยือนของสโต๊ค ซิตี้ เกมนี้เจ้าถิ่นได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กลับมาล่าตาข่าย ขณะที่ ชินจิ คากาวะ ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงติดต่อกันหลังจากเกมกลางสัปดาห์
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 3 นาที ทีมเยือนก็เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะขึ้นเกมมาทางกราบซ้ายของสโต๊ค ซิตี้ ปีเตอร์ เคร้าซ์ ยิงไปติดเซฟ ดาบิด เด เคอา จากนั้น จอนนี่ อีแวนส์ พยายามที่จะเตะสกัด แต่กองหน้าร่างโย่งของทีมช่างปั้นหม้อก็ยังอุตส่าห์แหย่ขาโดนบอลเข้าประตูไป
ทีมปีศาจแดงพยายามทวงประตูคืนทันที แต่แนวรับของสโต๊ค ซิตี้ ก็ยังทำหน้าที่กันได้อย่างเหนียวแน่น หลุยส์ นานี่ น่าจะช่วยให้ทีมตีเสมอได้ แต่เขากลับยิงข้ามคานไปแบบไม่ได้ลุ้น ก่อนที่เคร้าซ์จะเกือบมายิงให้ทีมเยือนหนีห่างออกไปได้อีก คราวนี้เขาวอลเล่ย์โด่งออกหลังไป ทำเอาแฟนเจ้าถิ่นโล่งใจกันเป็นแถบ
นาทีที่ 24 เวย์น รูนี่ย์ ได้ลองปั่นโค้งจากบริเวณกรอบเขตโทษ อัสเมียร์ เบโกวิช ปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด จากนั้นที่อีกฝั่งของสนาม เด เคอา ก็ต้องโชว์ฟอร์มเซฟบ้างจากลูกยิงโล่งๆ ของ โจนาธาน วอลเตอร์ส
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเดินหน้าไล่ล่าประตู แต่ก็ยังสร้างสรรค์โอกาสไม่ได้มากนัก มิดฟิลด์ทั้ง 5 คนของทีมเยือนต่างก็ทำงานของตนเองได้ดีเยี่ยม แต่แล้วในนาทีที่ 42 เจ้าถิ่นก็ตีเสมอได้สำเร็จ เวย์น รูนี่ย์ โขกไปติดเซฟเบโกวิชกระดอนมาเข้าทางปืน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ เข้าสู่ก้นตาข่าย
แต่เพียงแค่ 2 นาทีให้หลัง สโต๊ค ซิตี้ ก็มายิงขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้มาจาก มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช ที่ซัดฟรีคิกจากระยะ 20 หลาเข้ามุมประตูไป เด เคอา พยายามพุ่งเซฟแล้ว แต่ก็ถือว่าสุดปลายมือจริงๆ และก็จบครึ่งแรกกันไปโดยที่ทีมเยือนเป็นฝ่ายนำ 2-1 โดยก่อนสิ้นเสียงนกหวีดพักครึ่ง ผู้เล่นสโต๊ค ซิตี้ ก็มารับใบเหลืองกันไป 2 คน เป็นเคร้าซ์ และ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ที่ถูกจดชื่อไป
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นาน อาร์เนาโตวิชผู้ยิงประตูขึ้นนำก่อนจบครึ่งแรกก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไป เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวน จากนั้นรูนี่ย์ก็ลองส่องหลุดกรอบออกไปแบบได้ลุ้น ดาวยิงทีมชาติอังกฤษยังคงต่อสู้อย่างไม่ลดละ
นาทีที่ 57 แอดนาน ยานูซาย ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเติมความสดแทนนานี่ และเขาก็สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับทีมเยือนทันที โดยเรียกใบเหลืองจากทั้ง สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ และ วิลสัน ปาลาซิออส ได้แบบติดๆ กัน
ทีมช่างปั้นหม้อยังต้องรับใบเหลืองกันไปอีก คราวนี้เป็น มาร์ค วิลสัน ที่ไปทำฟาวล์ใส่ ฟิล โจนส์ จากนั้นเจ้าถิ่นก็ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกครั้ง โดยส่งเอา ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ลงมาแทน ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
ลงสนามมาได้แค่นาทีเดียว ชิชาริโต้ก็โดนจดชื่อทันที เมื่อไปแหย่ขาสกัด โรเบิร์ต ฮูธ ก่อนที่ศูนย์หน้าทีมชาติเม็กซิโกจะมาได้จังหวะยิงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย จากการจ่ายเข้ามาให้ของ ปาทริซ เอฟร่า น่าเสียดายที่เขายิงด้วยเท้าซ้ายหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
เดวิด มอยส์ ยังคงแก้เกมอย่างต่อเนื่อง คราวนี้เขาส่ง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงมายืนเป็นแบ็คขวาแทน คริส สมอลลิ่ง และหลังจากนั้นไม่นานนัก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาตีเสมอได้สำเร็จเป็น 2-2 จากจังหวะเตะมุมของ ฟาน เพอร์ซี่ เป็นรูนี่ย์ที่ขึ้นโขกเสียบเสาสองผ่านมือเบโกวิชเข้าไปตุงตาข่าย เขารีบเก็บบอลมาตั้งที่กลางสนามทันทีเพื่อเร่งทำประตูชัย ถึงตรงนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก 13 นาที
และก็รอไม่นานเลย เมื่อความตั้งใจนั้นเป็นผลในนาทีที่ 79 เอฟร่าครอสบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาให้ชิชาริโต้ขึ้นโขกเข้าประตูไป ทำเอาเสียงเชียร์ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ดังกระหึ่มขึ้นมา เช่นเดียวกับ เดวิด มอยส์ ที่ออกอาการดีใจสุดขีด
ช่วงท้ายเกมฮูธของทีมเยือนมาโดนจดชื่อไปอีกคนจากการไปทำฟาวล์ใส่ยานูซาย และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที วาเลนเซียก็รับใบเหลืองบ้าง จากข้อหาพยายามถ่วงเวลา แต่ก็ไม่มีทีมไหนทำประตูกันได้อีก จบเกมจึงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พลิกสถานการณ์กลับมาเก็บ 3 คะแนนเต็มด้วยสกอร์ 3-2
สถิติ